มนุษย์เราเดิมทีต้องบอกว่าเป็นสัตว์สังคมที่เป็นนักล่าแบบหนึ่งเหมือนกัน หากอยู่บนบกก็จะล่าทั้งสัตว์บก และสัตว์ที่บินอยู่ในอากาศ หรือชุมชนไหนอยู่ใกล้น้ำก็จะตกปลา ล่าสิ่งมีชีวิตในน้ำขึ้นมากินกันเสมอมาจนถึงปัจจุบัน แต่บางครั้งสัตว์บางชนิดที่ล่ามากิน หรือ เอามาทำเป็นอาหาร มันก็ทำให้คนทั่วไปรู้สึกว่า มันเป็นเนื้อสัตว์ที่ไม่น่าเอามากินเสียเลย อย่างเช่น เนื้อหมา เป็นต้น
เนื้อหมา รสชาติอย่างไร
สำหรับคนไม่เคยกิน หรือ ไม่คิดจะกินอาจจะสงสัยว่า เนื้อหมามันมีรสชาติอย่างไร อร่อยแค่ไหน ทำไมถึงต้องกินกัน อย่างแรกเลยเราเอาเรื่องรสชาติมาก่อน หากถามคนที่เคยกินมาแบบไม่รู้ตัว มันจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เนื้อหมามีลักษณะคล้ายกับเนื้อวัว แต่มีความเหม็นสาบมากกว่า ส่วนความนุ่มของเนื้อ หรือ รสชาติจะออกฝาด (ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเนื้อ และวิธีการทำอาหารด้วย) ส่วนใหญ่เนื้อหมามักจะทำเป็นเนื้อแดดเดียวตากแห้งแล้วเอามาทอด หรือไม่ก็ทำเป็นเนื้อสดใส่ลงไปกับอาหารที่มีรสเผ็ดจัดเพื่อดับกลิ่นคาว
กินแล้วมีกลิ่นจริงไหม
ความเชื่อหนึ่งของคนกินเนื้อหมาก็คือ กินแล้วหมาตัวอื่นจะเห่านี่จริงไหม อันนี้ตอบได้เลยว่าจริง เมื่อเรากินเนื้อสุนัขเข้าไปจะทำให้เรามีกลิ่นของเนื้อสุนัขนั้นติดตัวไปด้วย (แต่เราอาจจะไม่ได้กลิ่นสาปนั้น) พอเราเดินผ่านสุนัขตัวอื่นจะทำให้กลิ่นบนตัวของเราไปเตะจมูกสุนัข พอสุนัขได้กลิ่นที่เหมือนกับสุนัขทางอื่นเข้ามาในถิ่นของตัวเอง ก็ได้เวลาเห่าเพื่อแสดงอาณาเขตของตัวเอง ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจทำไมเวลากินแล้วสุนัขเห่าหรืออาจจะเดินตามมาสำรวจกลิ่น
การต่อต้าน สุนัข
การกินเนื้อหมาในนั้นสังคมไทยเรา เป็นอีกเรื่องที่ยอมรับกันไม่ได้ ส่วนหนึ่งคนไทยเราไม่คุ้นชินกับการนำสุนัขมาเป็นอาหาร เราเชื่อกันว่าสุนัขควรทำหน้าที่เฝ้าบ้าน ดูแลบ้านอาณาเขตของตัวเอง และเป็นเพื่อนคู่บัดดี้กับมนุษย์มากกว่า (แตกต่างจากสัตว์ชนิดอื่นที่เราเข้าใจอยู่แล้วว่ามันเกิดมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์อย่าง หมู ไก่ เป็ด วัว) การจะเอาเพื่อนที่ซื่อสัตย์มากที่สุดมากินเป็นอาหารนับว่าเป็นเรื่องที่ดูจะทรมานกันเกินไป ทำให้การต่อต้านแนวคิดรับประทานเนื้อสุนัขเริ่มมีมากขึ้น จนกระทั่งได้มีการออกกฎหมายมาครอบคลุมเรื่องนี้
หลังจากมีการรณรงค์ต่อต้านการกินเนื้อหมาในบ้านเรา ก็ทำให้เรื่องนี้เงียบซาลงไป ก็หวังว่าจะไม่มีการลักลอบค้าเนื้อสุนัขขึ้นมาอีก หรือ ใครที่คิดจะเอาสุนัขไปแลกถังก็อย่าทำเลย สงสารมัน