หอยทาก ถือเป็นอาหารกินเล่นประจำชาติของเวียดนาม ซึ่งเมื่อถึงวันหยุดกลุ่มเพื่อนๆ หรือครอบครัวจะนัดกันทำอาหารมื้อใหญ่ ประกอบไปด้วยหอยทากเป็นวัตถุดิบหลัก คนเวียดนามชอบที่จะกินหอยทากแก้มกับเบียร์เย็นๆ สักแก้ว เราสามารถหากินหอยทากได้ตามร้านอาหารในฮานอย โดยจะพบหอยทากขนาดเล็กและใหญ่ต้มในซอสเผ็ดเล็กน้อย เวลากินจะใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปในเปลือกที่มีตัวของหอยอยู่ด้านในออกมา รสชาติของมันเหนียวคล้ายกับยาวแต่ก็ยังพอที่จะเคี้ยวได้ มันเป็นประสบการณ์ที่ดีในการลิ้มลองอะไรใหม่ๆ และหอยทายก็เป็นอะไรที่น่าลิ้มลอง
เมื่อนำมารวมกับไข่ข้าวที่เป็นไข่ตัวอ่อนของนก มันกลายเป็นเมนูที่ได้รับนิยมอย่างมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงลาว กัมพูชา เวียดนาม ไทย ฟิลิปปินส์และประเทศจีน ไข้ข้าวเป็นไข่นกที่ปฏิสนธิ (ปกติจะเป็นเป็ด) ที่ฟักตัวเป็นเวลา 14 ถึง 21 วัน นำมาปรุงด้วยการต้ม ส่วนวิธีกินจะใช้วิธีตักกินจากเปลือกโดยตรงหรือกระดกกรอกเข้าปาก หากเป็นไข่ข้าวที่นานมักจะมีการพัฒนาการจนเริ่มมีกระดูกกอ่อน ทำให้เวลาเคี้ยวจะรู้สึกกรึบๆ เหมือนกระดูกอ่อนของเนื้อสัตว์แต่ไม่แข็งเท่า เชื่อกันว่าการกินไข่ข้าวเป็นยาแผนโบราณ ช่วยกระตุ้นสมรรภาพทางเพศและรักษาอาการเมาค้าง
การทำไข่ข้าวนกกระทากับหอยทากต้ม
ไข่ข้าวและหอยทาก มักถูกจะนำมาเป็นวัตถุดิบในการทำเมนูอาหารร่วมกันบ่อยๆ อย่างที่เห็นในเมนู “ไข่ข้าวนกกระทากับหอยทากต้ม” ที่จะใช้ไข่ของนกกระทาที่มีขนาดเล็ก ซึ่งเป็นเมนูที่ขายอยู่ในร้านข้างถนนในเวียดนาม วิธีทำคือการเตรียมส่วนผสมหลักๆ คือหอยทาก กับไข่ข้าวนกกระทาที่ฟักตัวเป็นเวลา 14 ถึง 21 วัน นำไปต้มหรือนึ่งจนสุก และนำไปจิ้มกับน้ำยำสูตรต่างๆ โดยจะเลือกกินเฉพาะส่วนลำตัวหรือจะกินทั้งฟองเคียงกับหอยทาก ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่น่าเข้ากันได้แต่มันก็เป็นไปแล้ว เพราะสองอย่างนี้เข้ากันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นความเหนียวของหอย ความหนึบของไข่ข้าว ตามด้วยน้ำยำที่เผ็ดแสบจึงไม่แปลกที่มันกลายเป็นอาหารพื้นเมืองของชาวเวียดนามและอีกหลายๆ ประเทศ ซึ่งในขณะที่ประเทศไทยมีการกินไข่ข้าวกันเยอะมาก โดยเฉพาะในภาคอีสานแต่ยังไม่ค่อยพบเห็นกินหอยทากมากเหมือนในเวียดนาม ไม่มีใครรู้ว่าคนคิดวิธีกินสุดแปลกประหลาดเป็นใครและเริ่มจากที่ไหน สิ่งเดียวที่เรารู้คือดูเหมือนว่ามันจะเป็นที่นิยมในหลายๆ ประเทศแล้วในปัจจุบัน